เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น เป็นครั้งแรก มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นในทริปนี้
แต่ที่ประทับใจที่สุดคือ วัดอาซากุสะ วัดอาซากุสะเป็นวัดในศาสนาพุทธ แต่เดิมนั้นเป็นวัดของนิกายเทนได
ต่อมาในสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ถูกจัดให้เป็นวัดหนึ่งในอารามชั้นเอกของนิกายอวโลกิเตศวรมีพระอวโลกิเตศวรหรือเจ้าแม่กวนอิมเป็นพระประธาน และถูกจัดให้เป็นวัดอันดับที่ 1 ของการจาริกบูชาเจ้าแม่กวนอิมในเอโดะ 33 แห่ง
นอกจากนี้ยังเป็นวัดอันดับที่ 13 จาก 33 แห่ง ของการจาริกบูชาเจ้าแม่กวนอิมในเมืองบันโด สิ่งแรกที่จะสามารถสังเกตได้เมื่อมาที่นี่ก็คือโคมไฟสีแดงขนาดใหญ่ที่เขียนว่า 雷門 ซึ่งอยู่ด้านหน้าติดกับถนน โดยด้านข้างซ้ายขวานั้นจะมีเทพทวารบาลอย่างฟูจิน และไรจิน ประทับอยู่ ส่วนทางด้านหลังของเทพทวารบาลทั้งสองจะมีรูปปั้นของมนุษย์ชายหญิงคู่หนึ่ง ว่ากันว่าเป็นมังกรจำแลงมา… คามินาริมง นั้นถูกสร้างขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่มีหลักฐานปรากฎ มีแต่รายงานบันทึกความเสียหายจากการถูกไฟไหม้ในปี ค.ศ. 1865 หลังจากนั้นหนึ่งศตวรรษ (ประมาณปี 1960) ก็ได้ถูกบูรณะขึ้นมาอีกครั้งด้วยคอนกรีตเสริมใยเหล็ก ส่วนโคมสีแดงนั้นก็ได้รับมาจากประธานของบริษัทมัสซึชิตะเดงคิ นำมาถวายเพื่อแก้บนให้หายป่วยจากโรคภัย ในหนึ่งปีนั้นจะมีการยกโคมลูกนี้ไปเก็บด้วย 2 เหตุผลเท่านั้นคือ เนื่องในเทศกาลซานจะ (Sanja-Matsuri ) กับเมื่อมีพายุไต้ฝุ่นเข้าเท่านั้น
พอเดินผ่านคามินาริมงเข้ามาก็จะเจอ ถนนการค้านากามิเสะ (Nakamise ) ถนนนี้ถูกสร้างขึ้นในสมัยเอโดะตอนปลาย เพื่อเป็นย่านไว้สำหรับขายของที่ระลึกของเมืองเอโดะ
นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาพื้นที่บริเวณรอบๆวัดให้เป็นย่านการแสดงศิลปวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นโรงละคร สถานแสดงศิลปะต่างๆ ต่อมาในสมัยเมจิ มีการปรับปรุงย่านการค้าให้เป็นระเบียบมากขึ้น โดยใช้วัสดุก่อสร้างที่มีความคงทน และในสมัยไทโช จึงได้มีการสร้างโรงละครโอเปร่าของอาซากุสะขึ้น ซึ่งเป็นที่สำหรับแสดงละครสมัยใหม่แห่งแรกในญี่ปุ่น
เมื่อเดินมาสุดถนนก็จะพบกับซุ้มประตูใหญ่อีกหนึ่งซุ้ม ซึ่งก็มีโคมกระดาษสีแดงลูกใหญ่แขวนอยู่อีกหนึ่งลูกเขียนว่า โคะบุเนะโจ ด้านซ้ายและขวาจะมีเทพทวารบาลคอยขับไล่สิ่งชั่วร้ายอีก 2 องค์ ที่คนญี่ปุ่นเรียกว่า “อา-อุม” ส่วนด้านหลังซุ้มจะมีรองเท้าเชือกสานแบบโบราณขนาดยักษ์แขวนอยู่ฝั่งละข้าง เพื่อเป็นการข่มขู่สิ่งชั่วร้ายทั้งหลายว่านี่เป็นขนาดฝ่าเท้าของเทพทวารบาลที่เราสังเกตคร่าวๆก็มีเท่านี้นะค่ะ และขอขอบคุณบริษัททัวร์ญี่ปุ่นที่พาเรามาที่วัดอาซากุสะ